วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

แก้กระหายด้วยน้ำ



นักโภชนาการส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่า ปัจจุบันคนเมืองกว่า 80% อยู่ในภาวะขาดน้ำ (Dehydrated) เรามักดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม เมื่อยามกระหายน้ำโดยหารู้ไม่ว่าสารกาเฟอีนในเครื่องดื่มเหล่านี้กระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำ และยิ่งทำให้เรากระหายน้ำยิ่งขึ้นไปอีก จำไว้ว่าในยามที่รู้สึกกระหายน้ำเครื่องดื่มที่ดีที่สุดที่เราควรบริโภค คือ น้ำเปล่า เท่านั้น น้ำมีความสำคัญต่อกระบวนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการดูดซึมวิตามินและสารอาหาร ระบบกำจัดสารพิษของตับและไต ระบบ

ย่อยอาหาร หากร่างกายขาดน้ำไม่ว่าเราจะรับประทานอาหารกลุ่มไฟเบอร์มากแค่ไหนก็เปล่า ประโยชน์ เพราะลำพังเส้นใยไฟเบอร์ก็ไม่สามารถนำพาของเสียออกจากร่างกายได้ดีหาก ปราศจากน้ำเป็นตัวหล่อลื่น นอกจากนี้ ภาวะเลือดข้นที่เกิดขึ้นในยามที่ร่างกายขาดน้ำ จะยิ่งทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับเคลื่อนให้เลือดไหลเวียนได้ตาม ปกติ และผลที่จะตามมาก็คือ สมองจะช้าลง ไม่ตื่นตัว ไม่มี

สมาธิ เหนื่อยเมื่อยล้าหมดแรงคุณรู้หรือไม่ว่า?คุณสามารถอยู่ได้โดยปราศจากอาหารถึง 40 วัน แต่หากขาดน้ำเพียงแค่ 3 วัน ยมบาลถามหาแน่ ร่างกายสามารถสูญเสียน้ำตาล แป้ง โปรตีน ได้ถึง 50% ได้สบาย ๆ แต่หากสูญเสียน้ำเพียงแค่ 20% คุณจะแห้งตายเพราะขาดน้ำ เหตุผลที่เราจำเป็นต้องดื่มน้ำให้ได้ถึงวันละ 68 แก้วหรือมากกว่านั้น เพราะว่าในแต่ละวันร่างกายต้องการใช้น้ำสำหรับกระบวนการทำงานของปอด 2 แก้ว สำหรับลำไส้และไต 6 แก้ว สำหรับผิวหนัง 2 แก้ว รวมแล้วประมาณ 10 แก้ว ซึ่งยังไม่รวมถึงการเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายด้วยซ้ำ แต่ร่างกายสามารถรับน้ำจากอาหารเพียงแค่ 3 แก้วครึ่ง จากกระบวนการเผาผลาญประมาณครึ่งแก้ว ดังนั้นคุณยังขาดน้ำอีก 68 แก้ว ทั้งนี้เพียงเพื่อให้ระบบต่างๆ

ยังสามารถทำงานไปได้ตามปกติเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างเช่น นม น้ำมะเขือเทศเข้มข้น จัดอยู่ในกลุ่มอาหารมากกว่าเครื่องดื่ม เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการอยากน้ำยิ่งขึ้น ปริมาณน้ำที่ลดจากร่างกายประมาณ 45% มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลงถึง 2030%เคล็ดไม่ลับ ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากที่ต้องพยายามดื่มน้ำให้ครบตามจำนวนแก้ว แต่คุณเองก็ต้องไม่ลืมนึกถึงผลที่จะตามมาหากร่างกายขาดน้ำแค่เพียงน้อยนิด ลองทำตามเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เรานำมาแบ่งปันเผื่อจะเป็นตัวช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น 1.ทุก ๆ เช้าเมื่อตื่นลืมตาคุณมักจะกระหายน้ำ สิ่งแรกที่ควรทำคือให้คุณคว้าแก้วแล้วเติมน้ำเปล่าดื่มเฮือกเดียวให้หมดสัก 1 แก้ว เพราะน้ำเปล่าแก้วนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกายแล้วยังจะช่วย ขับเอาของเสียและสารพิษที่ร่างกายทำงาน

กลั่นกรองมาทั้งคืนให้ออกจากร่างกาย อีกด้วย ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว 2.หากรู้สึกหนาวให้พยายามดื่มน้ำอุ่นก่อนที่จะนึกถึงชากาแฟ 3.กรุณาอย่าดื่มเมื่อรู้สึกกระหายให้ดื่มเมื่อนึกขึ้นได้ เพราะหากรอจนถึงกระหายนั่นแปลว่าร่างกายคุณขาดน้ำแล้ว 4.ลองกำหนดตัวเองโดยการตั้งเวลาให้ดื่มน้ำทุก ๆ ชั่วโมง และต้องไม่ลืมที่จะหาขวดน้ำวางไว้ใกล้ตัวด้วย 5.เมื่อไรก็ตามที่คุณดื่มชากาแฟ จงจำไว้เสมอว่าคุณจะต้องดื่มน้ำเปล่าเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการชดเชยน้ำในร่าง กายที่คุณกำลังจะสูญเสียจากการดื่มเครื่อง

ดื่มกาเฟอีน 6.และสุดท้าย ขอให้คุณย้อนกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นจนเข้าใจว่า น้ำเปล่ามีความสำคัญกับชีวิตและร่างกายของคุณมากแค่ไหน และให้คำนวณต่อว่าวันนี้คุณต้องดื่มน้ำอีกกี่แก้วถึงจะครบตามจำนวน และจากนั้นคงไม่ต้องบอกนะคะว่าคุณควรทำอย่างไรต่อ ร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบในปริมาณถึง 2 ใน 3 เลือด ประกอบด้วยน้ำ 83% กล้ามเนื้อประกอบด้วยน้ำ 75% สมองประกอบด้วยน้ำ 74% กระดูกประกอบด้วยน้ำ 22%

คู่มือบ้านใจดีโดย สสส

อนิจจัง




วันนี้อีกครั้งหนึ่งขอให้พยายาม
ออกไปเยี่ยมเยียนผู้คน
ให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมกำลังใจ
ให้พวกเขามีความสุข วันนี้ก็เช่นกัน
 จงเพียรพยายามในการสร้างคุณค่าที่ยิ่ง
ใหญ่และสูงส่ง คำพูดของวันนี้ คือ ก้าวหน้า

ตามรอยหลวงปู่



Sometime Home

วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

สู่ชัยชนะ




จงแสดงความขอบคุณจากใจจริง
เมื่อมีคนแสดงความกรุณา
และเอาใจใส่อย่างรอบคอบ
และจะสนองตอบด้วยความจริงใจที่สุด
เมื่อมีผู้คนมอบคำพูดและการกระทำ
ที่จริงใจให้ นี่คือสิ่งที่ก่อให้เกิด
แรงเหวี่ยงไปสู่ชัยชนะ


Sensai

วันนี้ขอให้ก้าวหน้าต่อไป





วันนี้ขอให้ก้าวหน้าต่อไปบนวิถีทาง
ที่ชาญฉลาด การเรียนรู้ทำให้เราเ
ปิดโลกใหม่ได้ จงพยายามเรียนรู้จาก
กัลยาณมิตร จงท้าทายอยู่เสมอ
เพื่อเสริมสร้างปัญญาของเรา


ชีวิตของเราก็เช่นเดียวกัน ความกังวล ความทุกข์ และปัญหา ทั้งหมดเป็นสัญญาณแห่งการเจริญเติบโตของเราเอง ด้วยข้อความที่ว่า ไม่เจ็บปวดก็ไม่ได้รับผลตอบแทนจงอย่าให้ ลมแห่งความกังวลมาฉุดรั้งท่าน จงมุ่งไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ที่ละก้าวไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเปรียบเทียบตัวเรากับผู้อื่น แค่เดินตามหนทางเฉพาะของท่านเองอย่างมั่นใจ ด้วยวิธีเฉพาะของท่านเอง 

17 October 2020 Saturday

วันนี้ทำหน้าที่ by Mod Tanoi on Scribd

ริเริ่ม



 

จงริเริ่มลงมือกระทำในหมู่ประชาชน
อย่างสดใสและร่าเริง ราวกับดวงอาทิตย์
(เพื่อความสุขของพวกเขา)
และในชุมชนท้องถิ่นของเรา
(เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของสังคม)
จงส่องแสงให้แก่ทุกผู้คนรอบตัวเรา
เพื่อให้พวกเขามีความหวัง และความกล้าหาญ




จากคนเล็ก ๆ ถึงคนเล็ก ๆ



วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

小狗的故事




เบื้องหลังน่าเศร้า ไลก้า สุนัขอวกาศสุนัขตัวแรกที่โซเวียตส่งไปโคจรบนอวกาศ ทั้งนี้ ไลก้า สุนัขอวกาศ ได้เสียชีวิตหลังจากขึ้นไปบนอวกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะความร้อน ทำให้องค์กรพิทักษ์สัตว์ของตะวันตกออกมาประณาม โซเวียต หลังจากที่รัสเซียส่งดาวเทียมสปุตนิก 1 ขึ้นโคจรในอวกาศเป็นครั้งแรกของโลก เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1957 จนโลกแซ่ซ้อง นายนิกิต้า ครุชชอฟ ประธานาธิบดีในขณะนั้น จึงสั่งให้นายเซอร์เก โครอลยอฟ บิดาโครงการอวกาศโซเวียต นำดาวเทียมขึ้นไปโคจรบนอวกาศอีก เพื่อเฉลิมฉลองวันที่ 7 พฤศจิกายน วันครบรอบการปฏิวัติของบอลเชวิค คำสั่งนี้จึงเป็นที่มาของ "การเดินทางอวกาศของไลก้า" นายบอริส เชอร์ทอค มือขวาของโครอลยอฟ กล่าวว่า โครอลยอฟมีเวลาไม่
ถึง 1 เดือนในการออกแบบดาวเทียมใหม่ พวกเขาหวั่นว่า การส่งดาวเทียมขึ้นไปอีกครั้ง อาจเกิดอุบัติเหตุจนเป็นการกลบชัยชนะครั้งแรก แต่ไม่อาจโต้แย้งครุชชอฟได้ ต่อมามีผู้เสนอความคิดให้นำสุนัขขึ้นไปด้วย ซึ่งโครอลยอฟก็ปิ๊งกับความคิดนี้ทันที แม้จะไม่ทราบถึงผลกระทบของอวกาศต่อสิ่งมีชีวิต โซเวียตเคยทำการทดลองนำสุนัขขึ้นไปกับขีปนาวุธ สุนัขบางตัวรอดชีวิต โดยสุนัขที่นำมาทดลองเป็นพันทาง
เพราะเชื่อว่ามีความอดทนต่อสิ่งแวดล้อมสูง เพียง 9 วันก่อน "สปุตนิก 2" ออกเดินทาง ดร.วลาดิเมียร์ ยาซดอฟสกี้เลือก "ไลก้า" สุนัขอายุ 2 ขวบไปกับสปุตนิก ไม่มีใครทราบเหตุผลในการตัดสินใจ บางทีอาจเป็นเพราะว่า "ไลก้า" เป็นสุนัขที่รูปร่างลักษณะดี ในบันทึกของยาซดอฟสกี้ระบุว่า รู้สึกสงสาร "ไลก้า" เพราะรู้ว่ามันต้องเสียชีวิตแน่นอน เวลาของมันที่จะอยู่ในโลกเหลืออยู่น้อยเต็มที เขาจึงนำมันกลับบ้านไปเล่นกับลูก ๆ ของเขาเป็นครั้งสุดท้าย วันต่อมา เขาพา "ไลก้า" ไปส่งที่ฐานทดลอง มันเดินเข้าไปประจำในแคปซูลอย่างเงียบ ๆ และสง่าผ่าเผย ก่อนเดินทางเกิดอุปสรรคทางเทคนิค ไลก้าต้องนั่งอยู่ใน
แคปซูลนานถึง 3 วัน ในขณะนั้นอากาศหนาวมาก จนต้องติดตั้งสายยางจากภายนอกให้เข้าไปในแคปซูลเพื่อให้อากาศอบอุ่น กระทั่งวันที่ 3 พฤศจิกายนจึงสามารถส่งสปุตนิก 2 ขึ้นไปบนอวกาศได้ เมื่อไลก้าไปถึงอวกาศ แพทย์ต่างเบาใจเมื่อพบว่า หัวใจของ "ไลก้า" ยังเต้นอยู่ ความดันปกติ มันกินอาหารที่เตรียมไว้ให้ในแคปซูล ในรายงานของโซเวียตบันทึกว่า เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ผ่านไป "ไลก้า" จึงเสียชีวิต ทำให้องค์กรพิทักษ์สัตว์ของตะวันตกออกมาประณามโซเวียต เมื่อโซเวียตล่มสลายแล้ว เจ้าหน้าที่
ซึ่งร่วมในโครงการจึงออกมาเปิดเผยความจริงของการส่ง "ไลก้า" ไปกับ "สปุตนิก 2" ว่า "ไลก้า" เสียชีวิตหลังจากขึ้นไปบนอวกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพราะความร้อน หลังจาก "ไลก้า" โซเวียตยังส่งสุนัขขึ้นไปอีกอย่าง "เบลก้า" และ "สเตรลก้า" แต่พวกมันตายก่อนที่จะลงมายังพื้นโลก จนวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1961 โซเวียตส่ง "ยูริ กาการิน" มนุษย์คนแรกของโลกที่ ขึ้นไปบนอวกาศ กาการินกล่าวอย่างติดตลกไว้ว่า "ผมไม่เข้าใจว่าผมเป็นใครกันแน่ ระหว่างมนุษย์คนแรกในอวกาศหรือสุนัขตัวสุดท้ายในอวกาศ

ซีอุย แซ่อึ้ง

มหัศจรรย์ตัวน้อย


พรหมจรรย์ตัวน้อย

Victory





ก้อนหิน